แนะนำ Co-working Space ในกรุงเทพ บรรยากาศน่านั่ง ใกล้รถไฟฟ้า!

    สำหรับใครที่ทำงานฟรีแลนซ์ กำลังติวอ่านหนังสือสอบ หรือกำลังมองหาสถานที่ทำงานบรรยากาศชิลๆ ในวันเสาร์ อาทิตย์ การเลือกใช้บริการ Co-working Space ก็นับว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์กับคนยุคนี้สุดๆ เพราะมีบริการ WiFi ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสัญญาณอินเทอร์เน็ตและนั่งทำงานกันได้แบบสบาย แถมยังมีขนม กาแฟ และเครื่องดื่มไว้คอยบริการด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องหิวเลย นอกจากนี้ การได้พบปะเจอกับคนใหม่ๆ ก็ยังเป็นการช่วยเติมแรงบันดาลใจและไอเดียต่างๆ ได้อย่างดีอีกด้วย สำหรับวันนี้เรามี Co-working Space ในกรุงเทพ บรรยากาศน่านั่ง ใกล้รถไฟฟ้า 3 แห่งมาฝากทุกคนกัน มาดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง 

1. Glowfish Office 

หลายๆ คนน่าจะรู้จักชื่อของ Co-working Space ในกรุงเทพแห่งนี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยปัจจุบันเปิดให้บริการ 2 สาขาด้วยกัน คือที่อโศกที่ตึก Asoke Towers และ ที่สาทร ตึก สาทรธานี 2 ซึ่งเปิดให้บริการแบบครบวงจร มีทั้งพื้นที่ทำงาน สถานที่จัดกิจกรรม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างร้านอาหารและฟิตเนสเซ็นเตอร์ โดยรองรับทั้งคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กที่ยังไม่มีออฟฟิศเป็นของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่นั่งทำงานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เพราะหากนั่งทำงานเบื่อๆ เมื่อไหร่ก็สามารถไปเข้าคลาสออกกำลังกายได้ หรือจะสั่งเมนูโปรดสุดอร่อยขณะนั่งทำงานไปด้วยก็ได้เช่นกัน 

2. Just Co 

อยู่บ้านเบื่อๆ ไม่รู้จะไปนั่งทำงานเติมไอเดียใหม่ๆ ที่ไหนดี เราแนะนำ Just Co ซึ่งเป็น Co-working Space ในกรุงเทพที่เดินทางสะดวกทั้ง 4 สาขา คือที่ตึก เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์, อัมรินทร์ ทาวเวอร์, แคปปิตอลทาวเวอร์ และสามย่านมิตรทาวน์ โดยมาพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง จะทำงานหรือประชุมคอลก็ราบรื่นไม่ติดขัด นอกจากนี้ คุณยังสามารถนั่งทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอาการปวดหลัง ด้วยเฟอร์นิเจอร์คุณภาพเยี่ยมที่ออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่นั่งทำงานก็แวะมาที่นี่ได้ เพราะสามารถเข้ามาทำงานเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่คุณต้องการ โดยมีทีมงานคอยต้อนรับอยู่เสมอ 

3. Oneday Forward

หากใครกำลังมองหา Co-working Space ในกรุงเทพ ที่ให้บรรยากาศความเป็นกันเอง ปลอดโปร่ง ไม่เครียด ที่ Oneday Forward จะสามารถตอบโจทย์ของคุณได้อย่างแน่นอน โดยที่นี่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบริการ รวมถึงเครื่องปริ้นท์เอกสารที่สามารถใช้งานได้เสมอ หรือถ้าทำงานจนดึกดื่นก็สามารถนอนพักที่โฮสเทล ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ Oneday l Pause and Forward เดียวกันได้ แถมการเดินทางก็สะดวกสบาย เพราะอยู่ใกล้สถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์  

เป็นยังไงกันบ้างกับ Co-working Space ในกรุงเทพ ทั้ง 3 แห่งที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หากเบื่อๆ การนั่งทำงานที่บ้านก็ลองหาโอกาสไปนั่งทำงานที่ที่เราแนะนำดู รับรองว่าช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน